หญิงไทยแทบตาย ผัวฝรั่งสุดเถื่อน ซ้อมมา 5 ปี แขนหักยังบังคับทำงาน ต้องหนีมาอยู่วัด
หญิงไทยแทบตาย ผัวฝรั่งสุดเถื่อน ซ้อมมา 5 ปี แขนหักยังบังคับทำงาน ต้องหนีมาอยู่วัด
วันที่ 27 มี.ค.67 น.ส.เนง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี เข้ามาร้องเรียนกับสื่อมวลชน ว่าถูกสามีชาวต่างชาติ ทุบตีจนต้องหนีตายเข้ามาอยู่ที่วัด ซึ่ง น.ส.เนง เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ตนทำงานเป็นแม่บ้านและรู้จักกับสามีคนนี้โดยการแนะนำจากเพื่อนที่ประกอบอาชีพเดียวกัน จนเกิดความรักและอยู่กินกันเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี
แต่สามีของตนเป็นคนเจ้าชู้ ชอบดื่มเหล้า เวลาเมาก็จะมีปากเสียงและลงไม้ลงมือมาตลอด แต่ก็ต้องทนเพราะความรัก มาระยะหลังเกิดการทำร้ายร่างกายหนักหลายครั้ง จนตนต้องไปรักษาตัวที่ รพ.บางละมุง จ.ชลบุรี ด้วยอาการแขนหัก ในวันที่ 17 ธ.ค.66 และรักษาอยู่หลายวันจนมีอาการดีขึ้น แต่สามีก็ไม่เคยไปดูแล พอกลับมาพักพื้นที่บ้านก็ไม่ได้พักผ่อน ยังบังคับให้ต้องทำงานบ้าน ล้างจานซักผ้า จูงหมา ปรนนิบัติทุกอย่างทั้งที่ตนแขนหักและพักฟื้นอยู่ในบ้าน
พอไม่ทำเพราะเจ็บแผลแต่กลับถูกสามีด่าว่าและไล่ออกจากบ้าน ตนทนไม่ไหวจึงเดินทางกลับบ้านไปที่ จ.สุรินทร์ ต่อมาสามีได้โทรมาง้อจนใจอ่อนเพราะความรัก จึงกลับมาหาสามีที่บ้านที่อาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งซื้อร่วมกันมากว่า 5 ปี ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก็คิดว่าสามีคงจะกลับใจ จึงกลับมาเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา
พอมาถึงยังไม่ทันได้ทักทายหรือพูดคุย กลับถูกสามีกระโดดตบบ้องหูอย่างรุนแรงจนล้มคว่ำไป แถมยังจะทำร้ายอีก ทั้งที่ตนแขนหักอยู่ จึงร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน ก่อนตั้งสติแล้วหลบหนีออกจากบ้านเพราะกลัวจะโดนเอาชีวิตเหมือนที่เป็นข่าว จากนั้นเรียกวินเดินทางมาขออาศัยที่วัดสายสุคนธ์ ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อขอความช่วยเหลือ และขออาศัยนอนรวมถึงอาหาร ซึ่ง พระครูสมุห์วิรัช เจริญพจน์ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสายสุคนธ์ ก็มิได้ปฏิเสธแต่อย่างใด กลับประสานงานสื่อมวลชนให้เข้าช่วยเหลือ
ล่าสุด สื่อมวลชนได้ประสานงานไปที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์รัฐบาล สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเหลือ และประสานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชลบุรี เข้าช่วยเหลือ ก่อนพาไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ